ข้อมูลและเคล็ดลับสำหรับแม่และลูกน้อย

ฝึกการเข้าห้องน้ำ
คำถามที่พบบ่อย
ตอบทุกคำถามคับข้องใจเกี่ยวกับการฝึกลูกเข้าห้องน้ำ

ควรเริ่มฝึกลูกน้อยเข้าห้องน้ำเมื่อไหร่ดี

babycare_img_fukidashi

  • ถึงลูกยังไม่ทิ้งช่วงห่างของการปัสสาวะ แต่อายุเกิน 2 ปีแล้วก็เริ่มได้เลยไหม (2 ปี 1 เดือน)
  • จริงหรือที่การฝึกจะไม่เป็นไปด้วยดี ถ้าหากเริ่มฝึกในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม (1 ปี 9 เดือน)

กระเพาะปัสสาวะของเด็กแต่ละคนเก็บปัสสาวะได้ไม่เท่ากัน เด็กบางคนจะไวต่อความรู้สึกมาก แค่รู้สึกว่ากระเพาะปัสสาวะมีปัสสาวะอยู่นิดนึง ก็จะรู้สึกอยากปัสสาวะแล้ว ถ้าลูกน้อยทิ้งช่วงห่าง ของการปัสสาวะแต่ละครั้งไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็ให้ดูอาการเขาไปสักพักก่อน เพราะนี่อาจเป็นเพราะ โครงสร้างของร่างกายที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ รอสักอีกนิด อาจจะใกล้ถึงเวลาที่เขากำลังจะก้าวไป อีกขั้นก็ได้ แต่ว่าถ้าอายุระหว่าง 2 ปีครึ่ง ถึง 3 ปีแล้ว ก็เริ่มได้เลย เพราะถ้าเริ่มช้ากว่านี้จะทำให้ ลูกน้อยติดผ้าอ้อมหรือรู้สึกกังวลเมื่อห่างจากผ้าอ้อม และอาจส่งผลกระทบต่อการฝึกเข้าห้องน้ำ ได้

เมื่อไรถึงจะชวนลูกน้อยไปเข้าห้องน้ำได้ และต้องทำยังไงบ้าง

babycare_img_fukidashi

  • บางครั้งพาลูกไปเข้าห้องน้ำ แต่ลูกไม่ปัสสาวะเลย (1 ปี 11 เดือน)
  • ลูกเกลียดการเข้าห้องน้ำมากเลย พาอุ้มไปเข้ายิ่งต่อต้าน (2 ปี 2 เดือน)

ไม่ใช่เรื่องต้องกังวลเลย ถ้าในครั้งแรกๆ ที่พาลูกน้อยเข้าห้องน้ำแล้วไม่มีปัสสาวะออกมา ขั้น แรกต้องให้เขาคุ้นเคยกับสถานที่ก่อน ถ้าพามาห้องน้ำบ่อยๆ แต่ยังไม่ปวดปัสสาวะ ลูกน้อยจะ เริ่มสับสนและไม่เข้าใจว่ามาห้องน้ำทำไม ดังนั้นไม่ใช่ว่าพอคุณพ่อคุณแม่นึกออกตอนไหนก็พา เขามาเข้าห้องน้ำ คุณแม่ควรหัดกะเวลาที่ลูกน้อยเก็บปัสสาวะไว้พอสมควรแล้ว และควรคอย สังเกตอาการของลูกน้อยว่าอยากเข้าห้องน้ำเมื่อไหร่จึงค่อยพาเขาไป เช่น เมื่อเห็นลูกน้อย กระสับกระส่าย หรือเมื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมไปแล้วเกือบ 2 ชั่วโมง ให้ลองถามลูกน้อยดูว่า “อยากไป ฉี่ที่ห้องน้ำไหมลูก” เพื่อให้เขาได้เชื่อมโยงห้องน้ำกับการปัสสาวะ

ถ้าเมื่อไรลูกน้อยเกลียดการเข้าห้องน้ำขึ้นมา ให้ลองคิดหาเหตุผลดูว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เช่น ห้องน้ำมืดหรือเปล่า กลัวเสียงชักโครกหรือเปล่า โถนั่งเย็นไปหรือเปล่า ลูกนั่งไม่สบายหรือ เปล่า เป็นต้น ค่อยๆคิดหาสาเหตุจนเจอเหตุผลที่ถูกต้อง นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความอุ่นใจ ให้ลูกน้อย ลองตกแต่งห้องน้ำด้วยสติ๊กเกอร์น่ารักๆ หรือใช้ฝารองนั่งชักโครกสำหรับเด็ก เพื่อช่วย ให้เขานั่งโถได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่ว่าทำอย่างไรลูกก็ไม่อยากเข้าห้องน้ำอยู่ดี ก็ให้หยุดการฝึกไว้ ก่อน และรอสัญญาณอยากปัสสาวะจากลูก จากนั้นค่อยเริ่มกันใหม่อีกครั้งก็ไม่สาย

ทำยังไงดี ถ้าลูกน้อยเอาแต่เล่นกับกระโถนหรือห้องน้ำไป

babycare_img_fukidashi

  • เมื่อพาลูกนั่งกระโถน เขากลับรู้สึกสนุกเหมือนนั่งเครื่องเล่นยังไงยังงั้นเลย (1 ปี 7 เดือน)
  • เวลาพาลูกเข้าห้องน้ำ ลูกเล่นอย่างเดียวเลย ทั้งดึงกระดาษทิชชู่ ทั้งเปิดน้ำเล่น สารพัด (2 ปี 1 เดือน)

นั่นเป็นเพราะลูกน้อยยังไม่เข้าใจว่า กระโถนกับห้องน้ำคือที่สำหรับขับถ่าย ถึงเขาเล่นก็ไม่จำ– เป็นต้องไปดุเขา เพราะแสดงว่านี่ยังไม่ถึงเวลาที่ลูกน้อยพร้อม พยายามต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นถ้าทุกครั้งที่พยายามฝึกเข้าห้องน้ำแล้วเขาทำแบบเดิม ให้ลองหยุดการฝึกไว้สักพักก่อน ในระหว่างนั้นก็พาลูกน้อยไปดูเพื่อนใช้กระโถนหรือห้องน้ำ ให้ดูรูปภาพในหนังสือหรือวีดีโอเพื่อ สอนให้เขาเข้าใจความหมายของห้องน้ำมากขึ้น การทำให้บรรยากาศการพาไปห้องน้ำเป็นเรื่อง สนุกสนานเพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับห้องน้ำและกระโถนนั้นก็ดี แต่ต้องไม่ทำให้เขารู้สึกว่านี่คือของ เล่น เพราะจะทำให้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเราเสียไป

ทำไมลูกน้อยไม่บอกก่อนที่จะปัสสาวะ

babycare_img_fukidashi

  • ดูท่าทางเจ้าตัวเล็กกระสับกระส่าย เลยถามว่า “จะฉี่เหรอลูก” แล้วลูกพยักหน้า แต่ก็ฉี่ออกมาแล้วอยู่ดี (2 ปี 4 เดือน)
  • เวลาพาไปห้องน้ำไม่ทัน พอถอดผ้าอ้อมออกก็ปัสสาวะซะตรงนั้นเลย (2 ปี 1 เดือน)

จากคำถามของคุณแม่ “อยากฉี่หรอลูก” อาจทำให้ลูกน้อยเข้าใจผิดว่า “ฉี่ไปแล้วหรือยัง” ก็เป็น ได้ บางทีเมื่อปัสสาวะแล้วลูกน้อยอาจรู้สึกไม่สบายตัว และอยากบอกความรู้สึกนี้กับคุณแม่ด้วย ถ้าเป็นเช่นนี้อาจเป็นไปได้ว่าลูกน้อยยังไปไม่ถึงขั้นที่สามารถบอกว่าปวดปัสสาวะก่อนที่จะ ปัสสาวะออกมาจริงๆ แต่การที่ลูกปัสสาวะแล้วค่อยมาบอกเรานั้นก็ถือว่าเป็นพัฒนาการก้าวใหญ่ แล้ว คุณแม่เองก็ควรชวนลูกน้อยคุยไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับห้องน้ำอย่างเดียวจะเป็น การดีที่สุด

คุณแม่อาจจะเจอเหตุการณ์ที่ ลูกน้อยส่งสัญญาณอยากไปห้องน้ำ แต่ปัสสาวะซะก่อน โดยไม่ สามารถกลั้นจนถึงห้องน้ำได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็อย่าเพิ่งทำหน้าผิดหวังใส่ลูกน้อยล่ะ ให้สร้างความ มั่นใจให้เขาแทน เช่นพูดว่า “ฉี่แล้วเหรอลูก ดีแล้วจ้ะ” เพราะการไปห้องน้ำไม่ทันนั้นไม่ใช่เรื่อง ที่ล้มเหลวเลย ในทางตรงกันข้ามนี่จะทำให้ลูกน้อยรับรู้ถึงความรู้สึกที่ปัสสาวะไหลมาบนขา และเข้าใจได้ว่ามีปัสสาวะออกมาจากร่างกายของเขาแล้ว จุดสำคัญอย่างหนึ่งคือ ควรใส่เสื้อผ้า ที่ถอดง่ายๆให้ลูก เพื่อที่จะสามารถถอดได้ทันทีเพื่อห้องน้ำในเวลาที่ต้องการ

ทั้งๆที่เข้าห้องน้ำได้แล้วแท้ๆ แต่ทำไมกลับมาเป็นแบบเดิมอีก

babycare_img_fukidashi

  • ก่อนหน้านี้พาไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ แล้วลูกก็ทำได้ดีด้วย แต่เดี๋ยวนี้ทำไม่ได้แล้ว และยังไม่บอกก่อนฉี่อีก (1 ปี 9 เดือน)

การที่ลูกเข้าห้องน้ำได้ก่อน 2 ขวบ อาจเป็นเพราะช่วงเวลาที่พอเหมาะก็เป็นได้ ในความเป็นจริง แล้ว การที่ลูกน้อยไม่เข้าห้องน้ำบ่อยเท่าแต่ก่อน จะมีสาเหตุมาจากระยะห่างของการปัสสาวะ ของลูกเพิ่มขึ้นมากกว่า ช่วงเวลาที่พอเหมาะสำหรับปัสสาวะกับการที่ลูกรู้สึกและบอกได้เองว่า อยากจะปัสสาวะนั้นเป็นคนละเรื่องกัน แต่นี่ถือว่าลูกน้อยสามารถใช้ห้องน้ำเป็นแล้ว ซึ่งแสดงว่า สอบผ่านขั้นตอนแรกของการฝึกแล้วด้วย

เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่ได้หมายความว่าลูกน้อยกลับไปเป็นแบบเดิมหรอก เมื่อไหร่ที่ลูกน้อย สามารถเข้าใจว่ามีปัสสาวะสะสมแล้วนะ เขาจะเริ่มส่งสัญญาณให้คุณพ่อคุณแม่รับรู้ว่าจะ ปัสสาวะ หรือไม่ก็บอกคุณพ่อคุณแม่เองได้ ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ค่อยสังเกตการพัฒนาของเขา แบบสบายๆดีกว่า

ลูกน้อยมักจะปัสสาวะเลอะกางเกงตอนเล่นอยู่ หรือไม่ก็ตอนง่วนกับอะไร สักอย่าง

babycare_img_fukidashi

  • ถามลูกว่า ”ฉี่หรือเปล่าลูก” เขาตอบว่า “ไม่ครับ” ซึ่งจริงๆได้ฉี่ไปเรียบร้อยแล้ว ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ ทั้งๆที่ลูกสามารถเคยบอกก่อนได้แล้วแท้ๆ (2 ปี 6 เดือน)

เมื่อลูกน้อยสามารถบอกว่าเขาอยากจะเข้าห้องน้ำได้มากครั้งขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจจะคิดอยาก จะเลิกใช้ผ้าอ้อมทันที แต่ว่าการฝึกลูกน้อยเข้าห้องน้ำนี้ พัฒนาการของลูกมีขึ้นๆลงๆเป็นเรื่อง ธรรมดา ถ้าลูกน้อยพบเรื่องอื่นที่น่าสนุกน่าสนใจกว่า เรื่องปัสสาวะก็จะกลายเป็นเรื่องรองลงมา เลย การที่ปัสสาวะออกมาแล้วแต่กลับบอกว่า "เปล่า" นี่ไม่ใช่เพราะเขาไม่เชื่อฟัง แต่อาจจะ เพราะตอนนั้นไม่ได้คิดถึงการปัสสาวะมากกว่า ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ให้ลองสังเกตลูกน้อยดู อีกที ถึงแม้บางทีคุณแม่อาจจะถามหาเหตุผลจากลูกน้อยว่า "ทำไมถึงไม่บอกแม่" เขาก็อาจจะ ไม่สามารถอธิบายได้อยู่ดี แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่ในใจลูก ก็มีแต่จะจำได้ว่าถูกคุณพ่อคุณแม่ดุ เท่านั้น

นอกจากนี้ถ้าคุณแม่เกลียดการที่ลูกน้อยปัสสาวะรดกางเกง แล้วชวนลูกน้อยไปห้องน้ำบ่อยๆนั้น ในที่สุดลูกน้อยอาจจะกลายเป็นคนที่ปัสสาวะบ่อยหรือไม่ก็ไม่ยอมบอกแม้ว่าจะปัสสาวะไปแล้ว ก็เป็นได้ ทางที่ดีควรรอให้ลูกน้อยบอกออกมาเองเวลาจะไปห้องน้ำ และออกปากชมหลังจาก เขาขับถ่ายที่ห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว การทำเช่นจะเป็นการกระตุ้นให้ลูกน้อยอยากบอกเราเวลา อยากขับถ่ายมากขึ้น ทั้งยังทำให้อยากใช้ห้องน้ำมากขึ้นด้วย การที่ลูกน้อยมาถึงขั้นนี้แสดงว่า ก้าวหน้าไปมากแล้ว แต่อย่าลืมล่ะว่าลูกน้อยก็มีโอกาสที่จะกลับไปเป็นแบบเดิมก็ได้อีกเหมือน กัน

ลูกน้อยชอบไปแอบเวลาที่กำลังอุจจาระ

babycare_img_fukidashi

  • ลูกสามารถบอกได้ก่อนที่จะปัสสาวะแล้ว แต่อุจจาระนี่กลับบอกไม่ได้ ยัง อุจจาระในผ้าอ้อมอยู่เลย ตอนไหนที่เขาปวดสังเกตได้เลยว่ามักจะไปแอบอยู่ หลังผ้าม่านทุกที (2 ปี 10 เดือน)

การอุจจาระนั้นแตกต่างจากการปัสสาวะเพราะต้องใช้การเบ่งร่วมด้วย ดังนั้นมีเด็กหลายคนเลย ที่จะเลือกสถานที่ที่ตนเองรู้สึกสบายใจที่สุดในการถ่ายอุจจาระ การที่ลูกน้อยไปหลบอยู่หลังผ้า– ม่านอาจเพราะอาย กลัวคนเห็น หรือเป็นเพราะกำลังตั้งอกตั้งใจในการเบ่งอยู่ก็ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นลูกน้อยทำท่าจะอุจจาระแล้วรีบพาเขาไปห้องน้ำเลยก็เป็นวิธีหนึ่ง ทว่าเด็กแต่ละคนไม่ เหมือนกัน บางคนถูกบังคับพาไปห้องน้ำแล้ว อาจกังวลใจ กลายเป็นอุจจาระไม่ออกก็มี ดังนั้น ปล่อยให้เขาอุจจาระไปก่อน แล้วตอนพาไปล้างก้นค่อยคอยกระตุ้นเขาว่า "คราวหน้า เราไปอึที่ ห้องน้ำกันดีกว่านะลูก"

นอกจากนี้ในบางกรณีที่ลูกน้อยแอบไปอุจจาระ อาจเป็นเพราะเคยโดนดุมาก่อนเรื่องที่อุจจาระ เลอะกางเกง หากเคยดุลูกน้อยไปแบบนั้น ครั้งหน้าหลังจากที่ลูกน้อยอุจจาระแล้วให้บอกเขาว่า “อึแล้วเหรอลูก ดีแล้วจ้ะ” เพื่อทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายกับการอุจจาระมากขึ้น

ใส่ผ้าอ้อมแค่ตอนออกไปข้างนอกได้ไหม

babycare_img_fukidashi

  • ลูกทำได้ดีมาโดยตลอดเรื่องเข้าห้องน้ำเลยเลิกใส่ผ้าอ้อมให้แล้ว แต่ก็กังวลใจ เวลาออกไปข้างนอก ให้เขาใส่ผ้าอ้อมแบบกางเกงเฉพาะเวลาที่ออกจากบ้านได้ ไหม (3 ปี )

ในช่วงแรกให้ใส่ผ้าอ้อมไว้อุ่นใจกว่า เพราะไม่ใช่ว่าการใส่ผ้าอ้อมนี้จะทำให้สิ่งฝึกไปไร้ผล อย่างไรก็ดีเมื่อใส่ผ้าอ้อมให้ลูกแล้วอย่าคิดว่าไม่เป็นไร ก่อนออกจากบ้านให้ปลูกฝังนิสัยที่ดี โดยการชวนเขาเข้าห้องน้ำก่อนเสมอ

นอกจากนี้ ควรหาข้อมูลไว้ล่วงหน้าด้วยว่าสถานที่ที่จะไปนั้น เด็กๆเข้าห้องน้ำตรงไหนได้บ้าง เมื่อไปถึงสถานที่นั้นแล้ว ถ้าใกล้ถึงเวลาที่ปกติลูกน้อยจะเข้าห้องน้ำ ให้ถามเขาด้วยว่า "อยากฉี่ ไหมลูก”

หลังจากมีน้องคนเล็กเกิดขึ้นมา ลูกน้อยก็ไม่ยอมบอกเวลาที่จะปัสสาวะเลย

babycare_img_fukidashi

  • เกือบจะฝึกได้สำเร็จแล้วเชียว แต่ตอนนี้ลูกไม่ยอมบอกล่วงหน้าเลย กว่าจะรู้ก็ ปัสสาวะไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนคลอดลูกคนที่สอง ก็ฝึกให้ลูกคนนี้ให้เข้าห้องน้ำ ไปเยอะแล้ว แต่นี่กลายเป็นสูญเปล่า (2 ปี 9 เดือน)

เมื่อมีลูกคนถัดมา ลูกคนก่อนอาจกลับไปทำตัวเด็กกว่าเดิมก็ได้ ตอนที่พาลูกคนเล็กกลับมาบ้าน ก็มักจะมีสิ่งที่เปลี่ยนไปหลายอย่าง จากที่เคยมีคุณแม่เพียงคนเดียว พอมีน้องขึ้น ลูกคนโตอาจ จะทำตัวเช่นนี้ เพราะอยากให้คุณแม่สนใจ คุณแม่ควรพยายามเข้าใจเขา และอย่าไปกดดันด้วย การถามคำถามว่า “ทำไมทำตัวแบบนี้ล่ะ! เราเป็นพี่แล้วนะ รู้ไหม”

ถึงแม้ลูกจะค่อยมาบอกหลังปัสสาวะออกมาแล้วก็ตาม ก็ควรเพิ่มความมั่นใจให้เขารู้สึกภูมิใจใน ตัวเอง เช่น พูดว่า “ขอบใจนะที่บอกแม่ สมกับเป็นพี่ชาย/พี่สาวจริงๆ ไม่เหมือนน้องเลยยังบอก แม่ไม่ได้” แล้วก็ตอนที่ลูกคนเล็กหลับก็ให้ใส่ใจลูกคนโตให้เต็มที่ แสดงให้เขาเห็นว่าแม่ไม่ได้ เปลี่ยนไปและยังรักเขาเหมือนเดิม ไม่นานนักลูกจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเอง ที่อุตส่าห์ฝึกฝน กันมานั้นไม่สูญเปล่าแน่นอน เพราะร่างกายของเด็กมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นก่อนที่ลูก จะปัสสาวะเขาสามารถบอกเราได้แน่นอน

ทำไมถึงไม่แนะนำให้ดุลูกน้อย เวลาที่เขาทำไม่ได้

babycare_img_fukidashi

  • ทั้งที่เด็กคนอื่นบอกลาผ้าอ้อมได้แล้วแต่ทำไมลูกเรายังทำไม่ได้สักที บางทีก็ แอบคิดว่าถ้าดุเขาหน่อยน่าจะได้ผลมากกว่านี้ (2 ปี 1 0เดือน)
  • หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกเสร็จไม่เท่าไหร่ ก็ปัสสาวะรดกางเกง เลยโมโหเผลอ ตวาดใส่เขาไป (3 ปี)

การที่ลูกน้อยยังทำไม่ได้สักทีนั้นเป็นเพราะร่างกายยังอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา ถ้าลูกน้อยทำไม่ ได้แล้วไปดุเขา มีแต่จะเพิ่มความเครียดให้ลูกไปกันใหญ่ ซ้ำร้ายจะไปหยุดยั้งพัฒนาการของ เขาอีก กลไกควบคุมการปัสสาวะนั้น จะต่างกันออกไปในเด็กแต่ละคน ดังนั้นคุณแม่ไม่ควร เปรียบเทียบลูกของตัวเองกับลูกคนอื่นแล้วไปดุเขาเพราะเหตุนี้ อีกทั้งการที่เลิกใส่ผ้าอ้อมช้า นั้นไม่ใช่ความผิดของคุณแม่เลย ช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร อย่าไปเร่งรัดลูก เพราะไม่ช้าก็จะสามารถ บอกลาผ้าอ้อมได้แน่นอน

และแน่นอน ถ้าคุณแม่นั้นกำลังยุ่งอยู่หรือไม่สบาย ก็อาจจะอารมณ์เสียได้ง่าย แต่หลังจากนั้น แล้วต้องกลับมาใคร่ครวญว่า สิ่งที่ทำไปนั้นไม่ควรเลย หลังจากดุลูกน้อยไปแล้วอารมณ์เย็นขึ้น ให้พาเขาเล่นให้สนุกสนานเพื่อรักษาแผลใจของเขาด้วย

ตรวจสอบข้อมูลโดย :
รศ.พญ.ประสบครี อึ้งถาวร
อาจารย์พิเศษ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเด็ก

Page Top