เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับปัสสาวะและอุจจาระของลูกน้อยตามช่วงอายุ คุณแม่สามารถหาคำตอบได้จากคำถามที่พบบ่อยเพื่อนำไปปรับใช้ตามอายุของลูกน้อยกัน
ลูกน้อยยังไม่ชินกับสภาพแวดล้อมภายนอกของครรภ์มารดา จึงร้องไห้บ่อยๆ แต่ลูก น้อยนั้นชอบเสียงและใบหน้าของคุณแม่เป็นที่สุด ขณะให้นมและเปลี่ยนผ้าอ้อม คุณ แม่ควรสบตาและพูดคุยกับลูกน้อยด้วยความรัก
คอและเอวลูกยังไม่แข็งแรง ท่าที่ลูกน้อยนอนจะกางขาเป็นรูปตัว M ซึ่งเป็นท่าตาม ปกติธรรมชาติ การควบคุมอุณหภูมิในร่างกายยังไม่สมบูรณ์ ให้ระวังอุณหภูมิห้องที่ไม่ เหมาะสม และปรับเสื้อผ้าที่สวมใส่และผ้าห่มให้เหมาะสมกับอากาศด้วย
กระเพาะปัสสาวะยังเล็ก เมื่อขยับตัวเพียงเล็กน้อยหรือแม้แต่เวลาร้องไห้ ก็จะมีปัสสาวะ ออกมา ลูกน้อยช่วงวัยนี้สามารถปัสสาวะได้มากถึงวันละ 10-20 ครั้งเลยทีเดียว ดังนั้น ก่อนให้นมหรือเมื่อลูกน้อยร้องไห้ คุณแม่ควรตรวจตราผ้าอ้อมด้วยเสมอ
เมื่อแรกเกิด สีอุจจาระของลูกน้อยจะออกสีเขียวคล้ำและมี ลักษณะเหนียว อุจจาระชนิดนี้เรียกว่าเมโคเนียม (Meconium) เกิดจากตอนอยู่ในครรภ์ลูกน้อยดื่มน้ำคร่ำเข้า ไป อุจจาระจึงมีลักษณะดังกล่าว เมื่อเข้าสู่อายุ 1 เดือน อุจจาระจะมีลักษณะเหลวคล้ายน้ำ ปริมาณอุจจาระที่ออกมา ในแต่ละครั้งจะน้อยมาก มีสีเหลืองอ่อน และกลิ่นออก หวานๆเปรี้ยวๆคล้ายโยเกิร์ต วันหนึ่งจะอุจจาระประมาณ 10 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
ลูกน้อยจะชอบเมื่อถูกอุ้ม และเมื่อได้รับการโอบกอด เมื่อพูดคุยด้วยก็จะยิ้มออกมา หรือส่งเสียง (อา... ออ...) เพื่อตอบโต้อย่างสนุกสนาน
คอจะค่อยๆแข็งแรงขึ้น เมื่ออายุเข้าสู่ช่วง 3 เดือน เวลาคว่ำตัวจะสามารถยกคอขึ้นมา ได้เป็นช่วงสั้นๆ นอกจากนี้ลูกน้อยจะเริ่มเอามือเอื้อมคว้าสิ่งของที่มองเห็น และเอาของ เข้าปาก ความสัมพันธ์กันของการเคลื่อนไหวระหว่างตาและมือจะเพิ่มขึ้นด้วย
ค่อยๆทิ้งช่วงห่างของการปัสสาวะมากขึ้น ลูกน้อยอาจร้องไห้หรือตื่นจากการหลับเมื่อ ต้องการปัสสาวะ ดังนั้นการร้องไห้อาจเป็นสัญญาณบอกว่ากำลังจะปัสสาวะอยู่
ช่วงอายุ 1-2 เดือน อุจจาระจะมีลักษณะเหลว ปริมาณการ ถ่ายอุจจาระแต่ละครั้งยังไม่มาก และจำนวนครั้งที่อุจจาระ นั้นจะแตกต่างกันไปในเด็กแต่ละคน บางคนถ่ายอุจจาระวัน ละ 10 ครั้ง บางคนวันละครั้ง เด็กที่เลี้ยงด้วยนมแม่กับนมผง นั้น สีอุจจาระและจำนวนครั้งจะแตกต่างกัน เด็กที่รับประทาน นมผงจะถ่ายอุจจาระน้อยครั้งกว่า หลังจาก 3 เดือนไปแล้ว อุจจาระจะมีลักษณะเหนียวและข้นขึ้น จำนวนการถ่าย อุจจาระก็จะลดลง สำหรับเด็กบางคน แม้ว่าไม่ได้ถ่ายอุจจาระ ทุกวัน แต่ถ้าถ่ายออกมาคล่องตามปกติ ก็ไม่ต้องกังวล
ลูกน้อยมีความสุขกับการเล่นจ๊ะเอ๋ และมีพัฒนาการทางการเล่นเพิ่มขึ้น สามารถจดจำ และแยกแยะผู้คนที่พบเห็นได้
เริ่มคลานและพลิกตัวได้ ประมาณ 7 เดือน กล้ามเนื้อท้องและหลังจะเริ่มแข็งแรง ทำ ให้สามารถนั่งได้โดยไม่ต้องมีคนพยุง นอกจากนี้ลูกน้อยยังสามารถแยกกลางวันกับ กลางคืนได้ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนจากการทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวัน
ระยะห่างของการปัสสาวะในช่วงนอนกลางวันและนอนกลางคืนเพิ่มมากขึ้น ปัสสาวะมี จำนวนครั้งน้อยลง เพราะว่าประสาทส่วนที่ควบคุมการปัสสาวะเริ่มพัฒนาขึ้น
เมื่อเริ่มรับประทานอาหารเสริม ท้องของลูกน้อยจะยังไม่ชิน ทำให้เกิดการท้องเสียบ้าง ท้องผูกบ้าง บางครั้งถ่ายออกมา โดยอาหารยังไม่ย่อย แต่การย่อยอาหาร จะเริ่มดีขึ้นเองตาม การเจริญเติบโต
มีการเชื่อมความสัมพันธ์กับคุณพ่อและคุณแม่ที่ลึกซึ้งขึ้น เมื่อคุณพ่อและคุณแม่หายไป ก็จะร้องหา และลูกน้อยจะเริ่มแสดงความต้องการของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น
เริ่มคลานได้เก่งขึ้น คุณพ่อและคุณแม่สามารถช่วยจับให้ยืนขึ้นและพาเดินได้ การนั่งจะ สามารถนั่งได้ดีขึ้น และมีพัฒนาการในการใช้นิ้วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถหยิบ ของชิ้นเล็กๆได้
เห็นได้ชัดว่าช่วงกลางวันจำนวนครั้งในการปัสสาวะจะลดลง ทำให้แต่ละครั้งที่ปัสสาวะ มีปริมาณเพิ่มขึ้น ในบางครั้งก่อนหรือขณะปัสสาวะลูกน้อยจะเขย่าตัวไปมาเป็น สัญญาณบอกให้รู้ว่าปัสสาวะอยู่
เนี่องจากการรับประทานอาหารคล้ายผู้ใหญ่มาก ทำให้ อุจจาระของลูกน้อยมีรูปร่างคล้ายอุจจาระของผู้ใหญ่มากขึ้น ตามไปด้วย สีก็จะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีน้ำตาลเข้ม อย่างไรก็ดีจำนวนครั้งและรูปร่างของอุจจาระก็จะต่างกันไป ในเด็กแต่ละคน
สามารถเข้าใจคำง่ายๆได้ และเริ่มแสดงความรู้สึกด้วยท่าทางต่างๆ แต่ว่ายังสื่อสารเป็น คำพูดไม่เก่ง
เมื่ออายุเข้าใกล้ 2 ปี จะเดิน วิ่ง และก้มตัวได้ เด็กบางคนสามารถเดินถอยหลังได้ นอก จากนี้ลูกจะสามารถขว้างของเล่น และเริ่มเล่นของเล่นได้หลากหลายขึ้น
ในช่วงวัยนี้ ลูกน้อยจะเริ่มหยุดปัสสาวะในตอนกลางคืนขณะหลับแล้ว ถ้าตื่นมาตอนเช้า แล้วผ้าอ้อมไม่เปียกให้ลองพาลูกน้อยไปเข้าห้องน้ำดู แต่ให้เล่นกับลูกไปด้วย และอย่า บังคับเป็นอันขาด
ท้องเริ่มแข็งแรง และลูกน้อยค่อยๆถ่ายเป็นเวลามากขึ้น โดยบางคนเมื่อปวดอุจจาระก็จะหยุดเล่น และหันมาตั้งใจ ถ่ายอุจจาระ
เริ่มมีความสนใจว่าผู้ใหญ่กำลังทำอะไรอยู่ และเริ่มลอกเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ สามารถจำคำต่างๆได้มากขึ้น โดยสามารถพูดประโยคสั้นๆที่มี 2-3 คำได้ มีความเป็น ตัวของตัวเองมากขึ้น โดยจะมีการปฏิเสธ หรือพูดว่า "ไม่" เพิ่มขึ้นด้วย
แขนขายืดขึ้น สามารถขึ้น-ลงบันไดเก่งขึ้น เล่นของเล่น เช่น กระดานลื่นสำหรับเด็กได้ อย่างสนุกสนาน โดยประมาณ 3 ขวบ จะเริ่มปั่นจักรยานสามล้อได้
ถ้าเริ่มสังเกตเห็นว่า ตอนกลางวันมีช่วงห่างของการปัสสาวะมากขึ้น และตอนกลางคืน เริ่มไม่ปัสสาวะเลย นี่จะคือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มฝึกให้ลูกน้อยเข้าห้องน้ำ แม้ ในช่วงนี้ลูกจะรู้สึกเองได้ว่าปวดปัสสาวะแล้ว แต่บ่อยครั้งลูกน้อยก็ยังปัสสาวะก่อนที่จะ บอกคุณแม่ก็มี แต่ไม่ต้องผิดหวังไป ให้คุณแม่หาช่วงเวลาที่เหมาะสมในแต่ละวันหรือ ใช้เวลาก่อนที่จะออกไปข้างนอก เป็นช่วงเวลาที่ชวนลูกน้อยไปเข้าห้องน้ำ และอย่าลืม ว่า ถ้าลูกน้อยทำได้ดีก็ควรออกปากชมเยอะๆ
ใน 1 วัน จะถ่ายอุจจาระประมาณ 1-2 ครั้ง การอุจจาระจะ เป็นเวลามากขึ้น และเริ่มเข้าใจว่าห้องน้ำเป็นที่สำหรับขับ ถ่าย แต่ในบางเวลาลูกน้อยอาจจะไปหลบอยู่หลังม่านหรือ สิ่งของอื่นเพื่อถ่าย ก็มีเหมือนกัน
เริ่มเข้าสังคมและเล่นกับเพื่อนได้ดี แม้เวลาเล่นเกมส์ก็สามารถตั้งกติกาเองได้ มี จินตนาการ และเล่นบทบาทสมมุติในนิทานได้เช่นกัน
สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้อย่างอิสระ เล่นชิงช้า ปีนป่ายโครงเหล็ก สามมิติในสนามเด็กเล่นได้อย่างคล่องแคล่ว และสามารถเต้นตามจังหวะเพลงได้ด้วย
สามารถบอกได้ก่อนที่จะปัสสาวะออกมาหรืออาจเริ่มเข้าห้องน้ำเองได้แล้ว นอกจากนี้ ยังสวมใส่และถอดเสื้อผ้าเองได้ เมื่ออายุประมาณ 5 ปี การปัสสาวะรดที่นอนตอนกลาง– คืนก็แทบจะไม่มีเลย
บอกได้เป็นคำพูดว่าจะอุจจาระ และยังสามารถกลั้นอุจจาระ ได้จนกว่าจะถึงห้องน้ำ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณแม่จะเริ่ม ฝึกให้ลูกน้อยถ่ายอุจจาระเป็นเวลามากขึ้น
สิ่งที่แนะนำให้ฝึกเป็นกิจวัตรประจำวัน
- เข้านอนตรงเวลา (นอนเร็วตื่นเร็ว)
- รับประทานอาหารตรงเวลา (รวมถึงรับประทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์ด้วย)
- เล่นอย่างเหมาะสม (ออกไปเล่นข้างนอก ให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวทุกส่วน)
- สนุกทุกวัน
ตรวจสอบข้อมูลโดย :
รศ.พญ.ประสบครี อึ้งถาวร
อาจารย์พิเศษ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเด็ก