1.ล้างมือให้สะอาดและเช็ดมือให้แห้งก่อน
2.ใช้เจลทำความสะอาดเครื่องสำอาง นวดเบาๆ รอบดวงตา ไม่ถูแรงๆ เพราะเป็นบริเวณที่ผิวบางและระคายเคืองง่ายกว่าปกติ
3.สำหรับการเช็ดมาสคาร่า ให้ถูเบาๆ บริเวณขนตาด้านบนจากโคนจรดปลาย สำหรับขนตาล่างให้ถูเบาๆ ด้วยปลายนิ้ว
4.ให้เช็ดริมฝีปากจากมุมปากทั้งสองข้างมาตรงกลางเสมอ
1.แบ่งโฟมล้างหน้าออกเป็น 2 ส่วน ครึ่งแรกชโลมบริเวณทีโซนและคาง จากนั้นชโลมส่วนที่เหลือบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้าง บริเวณทีโซนและคางมักเป็นบริเวณที่มีความมัน ส่วนบริเวณแก้มนั้นมักจะมีแนวโน้มแห้งกร้าน
2.นวดผิวเบาๆ ด้วยโฟม ไม่ถูแรงๆ
3.ใช้น้ำอุ่น (อุณหภูมิประมาณ 32-33 องศาเซลเซียส) ล้างออกให้สะอาด หลีกเลี่ยงน้ำร้อน เพราะจะชำระล้างน้ำมันในผิวมากเกินไปและเป็นสาเหตุของการก่อให้เกิดผิวแห้งกร้านได้
4.ใช้มือทั้งสองข้างทำความสะอาด โดยใช้มือซ้ายทำความสะอาดแก้มด้านขวา และใช้มือขวาทำความสะอาดแก้มซ้าย จากนั้นให้ตบเบาๆ
1.บำรุงผิวทันทีหลังจากทำความสะอาด เพื่อปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน
2.ลูบไล้ สัมผัสผิวอย่างบางเบา หลีกเลี่ยงการถูอย่างรุนแรง
3.หลังจากปรนนิบัติผิวด้วยครีมบำรุงแล้ว ให้กดนวดผิวเบาๆ อย่างอ่อนโยนด้วยฝ่ามือ จะช่วยให้ครีมซึมลึกลงสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
4.ลูบไล้ครีมบำรุงที่เหลือบริเวณคอเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
5.ทาให้ทั่วหน้าอย่างสม่ำเสมอจากตรงกลาง และทาซ้ำบริเวณผิวแห้งและหยาบกร้าน
1.การทาครีมกันแดดไม่เพียงพอ ไม่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ ดังนั้นเมื่อต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด ควรศึกษาและปฏิบัติตามคำแนะนำ และใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
2.สำหรับการทาซ้ำระหว่างวัน หากมีเหงื่อหรือสิ่งสกปรกบนใบหน้า ใช้สำลีเช็ดทำความสะอาดผิวให้สะอาดก่อนทาครีมกันแดด และทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดด
3.ทาซ้ำเบาๆ บริเวณที่มีรังสี UV ตกกระทบ และอย่าลืมปกป้องผิวบริเวณหลังใบหูและหลังคอด้วย